"วาระสุดท้ายของชีวิตจะต้องเลวร้ายที่สุดอย่างนั้นหรือ เราจะทำให้มันเป็นช่วงที่ดีที่สุดได้ไหม?" ในวัย 53 ปี ยูจีน โอ'เคลลี่ กำลังอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิต ในฐานะซีอีโอของบริษัทเคพีเอ็มจี บริษัทบัญชีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา เขาสนุกกับความสำเร็จในงาน และมีความสุขกับครอบครัว เขาคิดวางแผนล่วงหน้ากับทุกสิ่ง แต่แล้วในเดือนพฤษภาคม 2005 จีนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในสมองระยะสุดท้าย เขาเหลือเวลาเพียงสามถึงหกเดือนที่จะมีชีวิตอยู่ แล้วความมืดก็แผ่ขยายเข้าครอบงำอนาคตอันสดใสที่เขาวางเอาไว้ เขาต้องเปลี่ยนแผนทั้งหมดให้ได้โดยเร็วเพื่อยึดฉวยสิ่งที่เขายังพอทำได้ในวันท้ายๆ ของชีวิต "ไล่ล่าแสงตะวัน" คือบันทึกการเดินทางครั้งสุดท้ายของเขาเริ่มจากเวลาที่เขาได้รับการวินิจฉัย จนถึงบทสรุปแห่งความตายในอีกไม่ถึงสี่เดือนถัดมาหนังสือเล่มนี้ร้อยเรียงชีวิตของยูจีน โอ'เคลลี่ เอาไว้อย่างละเอียดใกล้ชิด รวมถึงการค่อยๆ ตื่นรู้มาสู่ความเข้าใจอันสำคัญยิ่ง ถักทอรายละเอียดในการต่อสู้ระหว่างเขากับมะเร็ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง
ชีวิตอละความตายทีละขณะ ทั้งความรัก ความสำเร็จ จิตวิญญาณและการค้นหาความหมาย นี่จึงเป็นบทพิสูจน์ของพลังแห่งจิตวิญญาณของมนุษย์ และเป็นการบอกกล่าวว่าเราจะมีชีวิตที่ชัดเจน สมดุล และมีความหมายอย่างไร "ไล่ล่าแสงตะวัน" ให้แรงบันดาลใจ ความรัก การหยั่งรู้ที่ลึกซึ้ง และเปนการบอกลาอันแสนเศร้าของชายผู้หนึ่งที่มีต่อโลกที่เขารัก
- ของขวัญ
- ขีดเส้นใต้
- การจัดการกับความตายเป็นเรื่องยาก
- ตายให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- การลาจากที่ดี
- การเปลี่ยนผ่าน
- ไล่ตามแสงตะวัน
ถ้าไม่อ่านคำบันทึกส่วนตัวของยูจีน โอ' เคลลี่ ที่หมอบอกว่ามีชีวิตอยู่ได้อีก 100 วัน เราก็คงไม่ได้อ่านหนังสือที่สะท้อนความรู้สึกลึกๆ ของนักธุรกิจชั้นนำคนนี้ ที่ควรจะเป็นบทเรียนสำหรับคน "บ้างาน" และ "บ้าตัวเอง" ทั้งหลายตอนที่คนเขียนบอกว่าค้นพบสัจธรรมแห่งชีวิต และความสำคัญของการ "อยู่กับปัจจุบัน" นั่นแหละคือตอนที่เห็นว่าคุณค่าของชีวิตจริงๆ อยู่ที่ไหน
สุทธิชัย หยุ่น