เรื่องราวของบุคคลในหนังสือเล่มนี้ ล้วนใช้ชีวิตอยู่ในบรรยากาศแห่งความขัดแย้ง ชิงชัง สับสน วุ่นวาย ไม่ต่างจากพวกเราทุกคน เพียงแค่บางคนต่างยุคสมัยกันไป พวกเขาอึดอัดคับข้องใจและพยายามหาคำตอบให้ตัวเองในใจไม่ต่างกันจากพวกเรา ว่าควรใช้ชีวิตอยู่อย่างไรในยุคสมัยที่ "อยู่ยาก" หากจะบอกว่าใครสักคน "อยู่เป็น" คำนี้ควรมีความหมายว่าอย่างไรกันแน่ บุคคลเหล่านี้เป็นเสมือน "แสง" ในยุคสมัยของพวกเขา บางแสงทอดยาวมาถึงปัจจุบันด้วยซ้ำไป แม้ต้องใช้ชีวิตอยู่ในยุคสมัยที่ยากลำบากเพียงใด พวกเขายังพยายามจุดแสงแห่งปัญญาขึ้นมา คุณค่าของแสงชนิดนี้คือ มันทำให้ผู้คนที่ได้สัมผัสรู้สึกว่า "ตัวฉันเองก็มีแสงเช่นกัน"
- ขงจื่อ : หากไม่อยู่ร่วมกับมนุษย์แล้วจะไปอยู่กับใคร
- ขงจื่อ : ผู้รู้ไม่เทียมเท่าผู้รัก ผู้รักไม่เทียมเท่าผู้รื่นรมย์
- จวงจื่อ : โลกวุ่นเพราะคนอยากเปลี่ยนโลก
- จวงจื่อ : ดีทั้งนั้น!
- โซฟี โชลล์ : เราจะไม่เงียบ
- อี.เอฟ.ชูมาเกอร์ : จาริกสู่ความดีงาม
- คานธี : เคลื่อนการเมือง เครื่องฝึกใจ
- คานธี : อย่าแยกหยดน้ำจากมหาสมุทร
- คานธี : เคารพโดยไม่ต้องเห็นด้วย
- เจ.อาร์.อาร์.ทอลคีน : สร้างโลกงดงามท่ามกลางความอัปลักษณ์
ฯลฯ
หนังสือเล่มนี้ของนิ้วกลม เปรียบเสมือนบทสนทนารอบกองไฟ เหมือนชาถ้วยน้อย เหมือนอ้อมกอดของมิตรสหาย ส่องสว่างเหมือนเปลวไฟ ที่ให้ทั้งอุ่นไอและแสงไฟที่ช่วยขับไล่ความมืด ผมหวังว่า แสงสว่างทางปัญญาจากหนังสือเล่มนี้จะก่อให้เกิดแสงใหม่ ส่องสว่างต่อ ๆ ไป ในยุคสมัยแห่งความมืดมิดมีแต่ร่วมกันจุดฟืนไฟเท่านั้น ความมืดจึงจะหายไป
-- ภิญโญ ไตรสุริยธรรมา --