ทุกคนมี "ความคิด" แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็น "นักคิด" ทุกคนมี "เหตุผล" แต่ไม่ใช่ทุกเหตุผลจะ "ฟังขึ้น" ทุกคนมีสิทธิแสดง "ความคิดเห็น" แต่ไม่ใช่ทุกความคิดเห็นจะเป็น "ประโยชน์" กับสถานการณ์นั้น ความคิดที่น่าสนใจมาจากวิธีคิดที่แหลมคม น่าสนใจ และน่าศึกษาว่าพวกเขาคิดแบบนั้นได้อย่างไร เพราะอะไรทำไมเราถึงเลือกบุคคลในหนังสือเล่มนี้ว่านักคิด? เหตุผลง่ายๆ คือ ความคิดของพวกเขาส่งผลกระทบต่อสังคมไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ และการได้นั่งอ่านความคิดเข้มข้นของพวกเขาก็สร้างผลกระทบให้กับสมองเราเป็นอย่างมาก เพราะมันช่วยกระตุ้นให้เรา "ได้คิด" และ "คิดได้"
การกระตุ้นความคิดด้วยความคิดเป็นเรื่องวิเศษอย่างหนึ่ง เพราะมันทำให้เกิดการต่อยอดความคิดไปไกลแสนไกล เพราะด้วยความคิดที่มีเหตุผลเท่านั้นที่จะทำให้เราค้นหาคำตอบที่นำพาเราเดินไปสู่ทิศทางที่ถูกต้องได้ นักคิดไม่จำเป็นต้องมีอายุอานามมากก็ได้ และไม่จำเป็นอีกเหมือนกันที่จะต้องอยู่ในท่าครุ่นคิดแบบรูปปั้น "The Thinker" ของออกุสต์ โรแดง พวกเขาคิดได้ในหลายอิริยาบถ แต่ไม่เคยหยุดคิดหรือหยุดพูดในสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่ามันสร้างสรรค์มากกว่าทำลายสังคม ที่สำคัญนักคิดที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้เป็น "นักคิดที่น่ารัก" ความน่ารักของพวกเขาคือ เขาไม่ได้พยายามเปลี่ยนความคิดให้ใครเชื่อตาม แต่คิดทุกอย่างด้วยความเชื่อมั่น "เชื่อมั่น กับ ดื้อรั้น" บางทีก็ถูกกั้นด้วยเส้นบางๆ แต่บ่อยครั้งที่เส้นบางๆ นั้นก็เบลอๆ นับจากยุคที่มีมนุษย์รวมตัวกันขึ้นมาเป็นสังคม ก็ไม่มีสังคมไหนวิวัฒนาการไปได้โดยปราศจากนักคิด แต่สังคมที่มีแต่นักคิดก็อาจไปไหนไม่ได้ไกล ถ้าปราศจากนักฟังที่ดี "ฟังแล้วคิด คิดแล้วฟัง" เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความอดทน
การหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเป็นสัญญาณอันดีว่าคุณกำลังจะเข้าสู่กระบวนการที่ต้องอดทนอ่าน และรับฟังในเรื่องที่หลากหลายและไม่คุ้นเคยบ้าง คำว่าขบคิดก็อาจมาจากขั้นตอนนี้ ความคิดบางอย่างต้องขบ ไม่อย่างนั้นก็คิดไม่แตก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อเปิดมุมมองให้ตัวคุณเอง!
- ฐิตินาถ ณ พัทลุง
- ผศ. ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล
- ตัน ภาสกรนที
- สุทธิชัย หยุ่น
- อภิรักษ์ โกษะโยธิน
- ธนา เธียรอัจฉริยะ
- ผศ. ดร. การดี เลียวไพโรจน์
- สฤณี อาชวานันทกุล
- ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมล
- สุทธิรัตน์ อยู่วิทยา
ฯลฯ