"หุ้นเปลี่ยนชีวิต" มักเป็นหุ้นของบริษัทที่มีกิจการดีมากในทางธุรกิจ และต่อมากลายเป็น "หุ้นซูเปอร์สต็อก" ส่วนมากมักจะไม่ได้เปลี่ยนชีวิตของคนส่วนใหญ่ที่เข้าไปซื้อ แต่มันจะ "เปลี่ยนชีวิต" เฉพาะคนที่ "มีความเชื่ออย่างแรงกล้า" ในคุณสมบัติของหุ้นตัวนั้น ว่ามันจะเป็น "หุ้นซูเปอร์สต็อก" และผลประกอบการจะดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ในอัตราที่ดีหรือดีมากต่อไปอีกเป็น 10 ปีเป็นอย่างน้อย และเขาก็ทุ่มเงินจำนวนมากเข้าไปซื้อและถือไว้ยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงที่พอร์ตการลงทุนยังไม่ใหญ่ เขาจะถือหุ้นตัวนั้นตัวเดียวถึงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต จากปกติที่เขามักจะมีการกระจายการถือครองหุ้นตัวหลัก ๆ อย่างน้อย 7-10 ตัวขึ้นไป เป็นต้น
หุ้นเปลี่ยนชีวิตแนวซูเปอร์สต็อกนั้น ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้เปลี่ยนชีวิตให้กับคนที่ลงทุนอย่างรวดเร็วเพียงในระยะเวลาแค่ 2-3 ปี แต่มักจะใช้เวลา 4-5 ปีขึ้นไปเป็นอย่างน้อย เพราะหุ้นเหล่านั้น เป็นแนว "หุ้นพื้นฐาน" ที่มักจะทำธุรกิจที่สม่ำเสมอและมั่นคง ซึ่งส่งผลให้รายได้และกำไรค่อย ๆ เติบโตไปปีแล้วปีเล่า ในอัตราที่ค่อนข้างสูง เฉลี่ยปีละ 15-20 เปอร์เซ็นต์ และในระหว่างนั้นก็มักจะมีเหตุการณ์ที่เศรษฐกิจแย่กว่าปกติ และมีบางปีที่กำไรบริษัทโตเร็วกว่าปกติขึ้นไปอีก แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร คนที่ลงทุนแล้วกลายเป็น "หุ้นเปลี่ยนชีวิต" ก็จะไม่ขายหุ้นทิ้ง จนถึงวันหนึ่งที่เขาจะกลายเป็นเศรษฐีเพราะถือหุ้นตัวนั้น
1. ในวันนี้ถ้าย้อนอายุกลับไปที่ประมาณ 25 ปีได้ ผมจะลงทุนอย่างไร?
2. ปรับความคิดพิชิตการลงทุน
3. ศิลปะการลงทุนระยะยาว
4. กลยุทธ์การลงทุนระยะยาวที่สั้นที่สุด
5. Macro Investing -สไตล์ VI
6. ศิลปะการโกง VI
7. ประเมินกลยุทธ์ VI
8. การอพยพครั้งใหญ่ของ VI
9. เส้นแบ่งบางๆ ระหร่างหุ้น Value -Growth - Corner
10. หุ้น Corner-Extreme
ฯลฯ