"Berkshire Beyond Buffett" หรือในชื่อภาษาไทย "บริษัทบัฟเฟตต์ ขอดเกล็ดมหาองค์กร" เป็นหนังสือที่มอง "เบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์" มหาองค์กรของ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" อย่างวิเคราะห์เจาะลึก และสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมองค์กรอันแข็งแกร่งของเบิร์คเชียร์ ที่สามารถรวมเอาความแตกต่างหลากหลายมาไว้ด้วยกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ องค์กรมูลค่า 300,000 ล้านเหรียญ ซึ่งวอร์เรน บัฟเฟตต์ สร้างขึ้นมา เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก แต่แม้จะทรงอิทธิพลและโด่งดังมากเพียงใด ก็ยังมีน้อยคนนักที่จะรู้จักเบิร์คเชียร์ หลายคนจึงหลงคิดไปว่าบริษัทนี้คงยากที่จะอยู่รอดได้เมื่อไม่มีบัฟเฟตต์แล้ว
"ลอว์เรนซ์ เอ. คันนิงแฮม" ผู้เขียน จะพิสูจน์ให้เห็นว่าความเชื่อดังกล่าวไม่เป็นความจริง ในการวาดภาพวัฒนธรรมองค์กรซึ่งหลอมรวมบริษัทย่อยของเบิร์คเชียร์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และได้ศึกษาค้นคว้ามาอย่างลึกซึ้งและลงลึกในรายละเอียด เขาสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งของเบิร์คเชียร์ สุดยอดคุณค่าอันจับต้องไม่ได้ แต่สามารถทำให้บริษัทในเครือแต่ละบริษัทที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์หลอมรวมเข้ากับวัฒนธรรมใหญ่ของเบิร์คเชียร์ได้อย่างเหนียวแน่น รวมไปถึง ปอกเปลือกให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะที่ทำให้มั่นใจได้ว่าเครือบริษัทนี้จะเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องไป เรื่องราวความเป็นมา ความสำเร็จ และเส้นทางอันแสนจะตราตรึงของบริษัทย่อยแต่ละบริษัทกว่าจะเข้ามาอยู่ใรเครือเบิร์คเชียร์ จะทำให้เราได้เห็นว่าผู้บริหารบริษัทเหล่านั้นสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่สิ่งที่จับต้องไม่ได้ อย่างความประหยัดมัธยัสถ์ ความซื่อสัตย์ ความเป็นผู้ประกอบการ อิสระในการบริหารงาน และสำนึกในการถือครองบริษัทไว้อย่างถาวรได้อย่างไร
เป้าหมายของบัฟเฟตต์คือ ต้องการสร้าง "เบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์" ให้เป็นองค์กรที่แข็งแกร่งและยั่งยืน แต่ข้อกังขาหนึ่งที่หลายๆ คนสงสัยคือ เมื่อวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่อยู่แล้ว มหาองค์กรนี้จะอยู่รอดต่อไปได้หรือไม่? ข้อกังขานี้จะหมดไปด้วยบทพิสูจน์จากหนังสือเล่มนี้
Part I
1. จุดกำเนิด
2. กระจายการลงทุน
3. วัฒนธรรม
Part II
4. สำนึกเรื่องต้นทุนและความตั้งใจจริง
5. ชื่อเสียง
6. สายสัมพันธ์ในครอบครัว
7. การมีความคิดริเริ่ม
8. ไม่เข้าไปก้าวก่าย
ฯลฯ
Part III
14. การสืบทอด
15. อุปสรรค
16. เบิร์คเชียร์
จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้คือ แนวคิด ปรัชญาการบริหารจัดการธุรกิจ ตลอดจนการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งเพื่อความยั่งยืนของอาณาจักร "เบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์" ผ่านการศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียด โดย ลอว์เรนซ์ เอ. คันนิงแฮม ที่คุ้นเคยกับเบิร์คเชียร์อย่างดี และคุณชัชวนันท์ สันธิเดช นักลงทุนเน้นคุณค่าที่ประสบความสำเร็จที่มีผลงานเขียนและแปลที่โดดเด่น ยังแปลได้อย่างน่าอ่านและน่าติดตาม
-- ธันวา เลาหศิริวงศ์ --
หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ ผู้อ่านจะรู้ว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ใช่ เป็นแค่นักลงทุนที่มีความสามารถชั้นยอดเท่านั้น แต่ยังเป็นนักบริหารที่ฉลาดหลักแหลมอย่างยิ่ง ด้วยการสร้างองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยตนเอง พร้อมทั้งสร้างวัฒนธรรมให้องค์กรธุรกิจ ที่จะคงอยู่ต่อไปได้อีกยาวนาน แม้ในวันที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ได้บริหารองค์กรธุรกิจนี้แล้ว
-- นพ. พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี --
ตัวผมเองได้เจอวอร์เรนผ่านทางเพื่อนคนหนึ่ง วอร์เรนเป็นคนฉลาดที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา ทักษะที่ทำให้วอร์เรนโดดเด่นเหนือคนอื่น เป็นสิ่งที่ชัดเจนในสายตาทุกคนที่รู้จักเขามา วอร์เรนเป็นคนใฝ่รู้ที่ชอบเรียนรู้เกี่ยวกับความสำเร็จของพวกผู้ประกอบการ ลงมือก่อร่างสร้างธุรกิจขึ้นมา ทั้งเขาและผมต่างสนับสนุนปรัชญาการบริหารองค์กรแบบกระจายอำนาจ คือการจ้างบุคคลหลักๆ ในองค์กรอย่างระมัดระวัง วอร์เรนอยากทำงานกับคนที่เขานับถือและชื่นชม นอกจากนี้เขายังมองหาบริษัทที่มีผู้บริหารที่มีค่านิยมเดียวกับเขา และเขาได้ปลูกฝังค่านิยมดังกล่าวไว้ทั่วทั้งองค์กรของ เบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ ความสำเร็จดังกล่าว ซึ่งถ่ายทอดไว้แล้วในหนังสือเล่มนี้ เป็นรากฐานอันมั่นคงและยั่งยืนของบริษัทนั่นเอง
-- ทอม เมอร์ฟี่ --